วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2562

19-พระราธเถระ เอตทัคคะในทางผู้ว่าง่าย



19-พระราธเถระ
เอตทัคคะในทางผู้ว่าง่าย

พระราธเถระ เป็นบุตรตระกูลพราหมณ์ ในเมืองราชคฤห์ ฐานะเดิมของท่านนั้นจัดว่า
อยู่ในขั้นเศรษฐี มีทรัพย์สินเงินทองมาก แต่เมื่อย่างเข้าสู่วัยชราถูกภรรยาและบุตรธิดาทอดทิ้ง
ต้องกลายเป็นคนยากจนอนาถา ที่พึ่งพาอาศัยต้องเลี้ยงชีพด้วยการอาศัยพระภิกษุอยู่ในวัด
พระเวฬุวันมหาวิหาร
ต่อมา ราธพราหมณ์ มีศรัทธาปรารถนาจะบวช แต่ไม่มีภิกษุรูปใดที่จะสงเคราะห์บวช
ให้ ทำให้เกิดความทุกข์ใจ ร่างกายซูบผอมหน้าตาผิวพรรณหม่นหมอง พระบรมศาสดาทอดพระ
เนตรเห็นราธพราหมณ์มีร่างกายผิดปกติอย่างนั้นแล้วจึงได้ตรัสถาม ทราบความโดยตลอดแล้วรับ
สั่งถามภิกษุผู้อยู่ในวัดพระเวฬุวันมหาวิหารว่า:-
“ภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดระลึกถึงอุปการคุณของราธพราหมณ์ผู้นี้ได้บ้าง ?”
ขณะนั้น พระสารีบุตรเถระ ซึ่งอยู่ในที่ประชุมนั้นด้วย ได้กราบทูลว่า:-
“ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ระลึกได้ พระเจ้าข้า คือ วันหนึ่งข้าพระองค์ได้เข้า
ไปบิณฑบาตในเมืองราชคฤห์ พราหมณ์ผู้นี้เคยถวายอาหารข้าวสุขแก่ข้าพระองค์ ทัพพีหนึ่ง
พระเจ้าข้า”
  • ทรงอนุญาตการอุปสมบทด้วยวิธีญัตติจตุตถกรรม
    พระบรมศาสดา ได้สดับแล้วตรัสยกย่องพระสารีบุตรเถระว่าเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวที
    แล้วมอบราธพราหมณ์ให้ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ ดำเนินการบวชให้ และทรงประกาศยกเลิกการ
    อุปสมบทด้วยวิธี ไตรสรณคมน์ ที่พระองค์ทรงอนุญาตไว้แต่เดิมแล้ว ทรงอนุญาตการอุปสมบท
    ด้วยวิธีญัตติจตุตถกรรม อันเป็นวิธีอุปสมบท โดยมีสงฆ์เป็นใหญ่ พระสารีบุตรเถระ เป็นพระ
    อุปัชฌาย์รูปแรก และพระราธะเป็นภิกษุผู้ได้รับการอุปสมบทด้วยวิธีนี้เป็นรูปแรก การอุปสมบท
    ด้วยวิธีญัตติจตุตถกรรมนี้ได้ถือปฏิบัติสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
    พระราธะ เมื่ออุปสมบทแล้ว วันหนึ่งได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคกราบทูลขอให้พระพุทธ
    องค์ตรัสสอนธรรมอันเป็นทางปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น พระพุทธองค์ตรัสสอนว่า:-
    “ดูก่อนราธะ สิ่งใดเป็นมาร เธอจงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย สิ่งที่เรียกว่ามาร คือ รูป
    เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ซึ่งเป็นสภาพไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นของมิใช่ตัวตน มีความ
    เกิดขึ้น ดำรงอยู่ เปลี่ยนแปลง และสูญสิ้นไปเป็นธรรมดา ดังนั้น เธอจงละความพอใจในสิ่งอัน
    เป็นมารเหล่านั้นเสีย”
    พระราธะ รับเอาพระโอวาทนั้นเป็นแนวทางปฏิบัติแล้วได้ติดตามพระสารีบุตรเถระ
    พระอุปัชฌาย์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่นานนักก็บรรลุพระอรหัตผล
    พระพุทธองค์ตรัสถามว่า:-
    “ดูก่อนสารีบุตร พระราธะสัทธิวิหาริยศิษย์ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง ?”
    “ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เธอเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย แนะนำสั่งสอนตักเตือนอย่างไร ก็
    ปฏิบัติตามแต่โดยดี ไม่เคยโกรธเคืองเลย พระเจ้าข้า”
  • ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย
    พระบรมศาสดาทรงสดับแล้ว ตรัสสอนให้ภิกษุทั้งหลายถือเอาพระราธะเป็นแบบอย่าง
    ในการเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย และทรงยกย่องพระราธะในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้ง
    หลาย ในทางผู้ว่าง่าย และผู้มีปฏิภาณ คือ เป็นผู้มีความรู้แจ่มแจ้งในพระธรรมเทศนา
    ท่านพระราธเถระ ดำรงอายุสังขาร ช่วยกิจการพระศาสนาพอสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็
    ดับขันธปรินิพพาน
84000.org...::

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสวงบุญดินแดนพุทธภูมิ อินเดีย เนปาล กราบนมัสการองค์ดาไลลามะ ทิเบต

๑๙ มกราคม - ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ หลักสูตร ป.เอก  สาขาวิชาพุทธจิตวิทยา รุ่นที่ ๗  คุณะมนุษยศาสตร มจร  พระนครศรีอยุธยา ศึกษาดูงาน ต่าง...